วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
"ข้าพเจ้าพูดได้โดยไม่ต้องรีรอ แต่ด้วยความเจียมใจเจียมกาย เป็นที่สุดว่า ผู้ที่กล่าวว่าศาสนาไม่เกี่ยวกับการเมืองนั้น เป็นผู้ที่ไม่รู้ความหมายของคำว่า ศาสนา ข้าพเจ้าจะดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอนของศาสนาไม่ได้ หากข้าพเจ้าไม่ถือว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของมวลมนุษยชาติ และการถือว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของมวลมนุษยชาติจะเป็นไปไม่ได้ หากข้าพเจ้าไมมีบทบาททางการเมือง" ***มหาตมะ คานธี***
ขอนำบทเพลงที่กำลังฮอตฮิต ในบรรยากาศการเมืองขณะนี้มาให้ร้องกัน
เพลงเทียนแห่งธรรม
จุดเทียนเล่มน้อย แล้วนำมาร้อยรวมกัน
ประคองให้มั่นหลอมรวมกันให้เป็นดวงใหญ่
สยบพวกมาร เผาผลาญผีเปรตจัญไรไล่มันออกไป จากประเทศไทยของเราเสียที
พ่อแม่พี่น้อง ขอจงมาคล้องดวงใจจับมือกันไว้ สู้ไปให้มันเต็มที่
ประเทศของเรา เราหวงดังดวงชีวีหากใครย่ำยี พร้อมพลีถึงตาย ไม่หวั่น
จะขอเป็นยาม...รักษาแผ่นดิน ขอเอาชีวิน พิทักษ์ราชันย์
ขอเอาพระธรรมนำหน้าเข้าฝ่าประจันตาต่อตา ฟันต่อฟัน ให้มันรู้ไป
จากเทียนเล่มน้อย ที่นำมาร้อยรวมกันประคองให้มั่นหลอมรวมกันให้เป็นดวงใหญ่
ขับไล่พวกมาร เผาผลาญผีเปรตจัญไรไล่มันออกไป
เอาประเทศไทยของเราคืนมาไล่มันออกไป...เอาประเทศไทยของเราคืนมา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
20 ความคิดเห็น:
*** เราก็ว่าเขาเป็นมาร เขาก็ว่าเราเป็นเปรต
บางยุค เมื่อเราว่าเขาหนักแผ่นดิน เขาก็ว่าเรานั่นแหละหนักแผ่นดิน
ต่างคนต่างมุมมองต่างเหตุผลและอุดมการณ์ ****
นานาจิตตัง
.
สาธุ
ตัวเหลือบในประเทศไทยมีเยอะ สมควรไล่ออกไป
รักประชาธิปไตยเหมือนกันต้องฟังเพลงนี้ให้ได้เลย
ช่วงนี้เหมือนเคยฟังที่กลุ่มพันธมิตรชอบร้องที่สะพานมัฆวานใช่ใหมครับ
ใช่ค่ะ เห็นเนื้อเพลงมีความหมายดี เลยเอามาให้ฟังกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเข้าข้างใดข้างหนึ่งน่ะคะ เพราะว่าเราเกิดมาเป็นคนไทย รักแผ่นดินเกิดอยู่แล้ว และก็รักความถูกต้อง รักความเป็นไทย อยู่ที่ไหนไม่เหมือนบ้านเรา จริง ๆ น่ะจะบอกให้
**เปลวเทียนละลายแท่ง
เพื่อเปล่งแสงอันอำไพ
ชีวิตมลายไป
เพื่ออาลัยทิ้งไว้แทน**
*** ร้อนแท่งเพราะเทียนไหล
ลุกลามไปจนใกล้โคน
ทุกปัญหาพากันโยน
คนที่โดน "ประชาชน"...
สวัสดีค่ะ...มาทักทายค่ะ
ใครจะทำอะไรก็ขอให้ทำเพราะรักชาติจริงๆ อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเลย ขอให้ประเทศไทยสงบสุขซะทีเถอะ ขอร้อง
มุมมืดมีดอกไม้ บานไสวในพฤกษา
มุมเมืองที่ทรมา จึงประจักษ์สลักศรี
ศักดิ์ศรีที่สล้าง สู้เพือสร้างทางเสรี
ยิ่งมืดก็ยิ่งมี ไม้พันธ์กล้า บานท้าทาย
ยิ่งมืดก็ยิ่งมี ไม้พันธ์กล้า บานท้าทาย
(จากบทประพันธ์ของจิรนันท์ พิตรปรีชา)
มุมมืดมีดอกไม้ บานไสวในพฤกษา
มุมเมืองที่ทรมา จึงประจักษ์สลักศรี
ศักดิ์ศรีที่สล้าง สู้เพือสร้างทางเสรี
ยิ่งมืดก็ยิ่งมี ไม้พันธ์กล้า บานท้าทาย
ยิ่งมืดก็ยิ่งมี ไม้พันธ์กล้า บานท้าทาย
(จากบทประพันธ์ของจิรนันท์ พิตรปรีชา)
เกิดเป็นคนไทย..รักผืนแผ่นดินไทย
ทำใจเป็น..กลางเข้าไว้..
ไม่ว่าอะไร..สุดท้าย..ประชาชนคนไทยเจ็บอยู่ดี
*** มุมมืดมีโจรหื่น มาแฝงยืนคอยสวรรค์
เมืองมืดแบ่งแยกกัน โน่นพันธมิตรนี่พันธุ์ไทย
จิตมืดจึงบอดบ้า อำนาจข้าอำนาจใคร
ถั่งโถมโหมแรงไฟ จะล้างใจให้เห็นธรรม
มุมมืดกลางสภา ซ่อนแววตาผู้ก่อกรรม
หลบลี้แอบชี้นำ ชำเราบ้านชำเราเมือง..
(จากบทรำพันของเราเองอ๊ะ... )
*****
สู้แล้วสบาย ตายแล้วไม่ได้สู้
สู้ให้ตาย ถ้าตายจะไม่ได้สู้
อยากให้ทุกคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ลองเหลียวมองประเทศเพื่อนบ้านของเรา เค้าเริ่มก้าวไปเหนือกว่าเรามากมาย เพราะพวกเรามัวแต่ทะเลาะกัน ... ++รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย++
xอโยธยาพ่ายสงคราม...เสียกรุงเพราะอะไร
มิใช่คนในชาติ...แตกสามัคคี..เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนหรือ
**ลมหายใจของการเมืองคือชีวิต ลมหายใจของความคิดคือการเมือง**
กระบวนการยุติธรรมบ้านเรา พึ่งพาได้จริง ๆ
ด้วยสองมือ ความเชื่อมั่น ในวันนี้
ขอแค่มี ความตั้งใจ ไม่โศกเศร้า
รวมพลัง ขจัดภัย ให้บางเบา
ประชาเรา เริ่มวันนี้ ประเทศไทย
แสดงความคิดเห็น